memo : โตไปพร้อมกัน

๒๙.๑.๒๕๖๐

ยามเช้าอากาศเย็น กลิ่นน้ำค้างยังคงไม่เหือดหาย

ช่วงเดือนเศษที่ผ่านมา ข้าพเจ้ามีโอกาสได้อยู่กับช่วงโมงยามแรกของอรุณรุ่ง แม้จะไม่หนาวเย็นเช่นต่างจังหวัด แต่กระนั้นก็เพียงพอให้รับรู้ค่าของความอุ่น

ผ่านพ้นเดือน . แม่จะพาณิฌาออกมาเดินหน้าบ้าน ส่วนพ่อก็จัดการเตรียมน้ำอุ่นสำหรับอาบ กิจกรรมยามเช้าเริ่มเข้าที่เข้าทาง จังหวะหมุนวนจนคุ้นชิน

ไม่เพียงแค่เด็กน้อยที่ค่อยๆเติบโต อีกทั้งหนึ่งหญิง หนึ่งชาย ซึ่งได้รับตำแหน่งพ่อและแม่ในวันเกิดของเจ้าตัวเล็ก ทั้งสองก็ค่อยๆเรียนรู้และเติบโตในหน้าที่อันเต็มใจยอมรับไปพร้อมๆกัน

มาลองคิดดูดีๆ เราต่างเติบโตไปพร้อมกันจริงๆ

ในขณะที่นึกถึงอนาคตของลูก อดีตของตนเองก็หวนย้อนกลับมาฉายซ้ำ เป็นภาพพ่อและแม่ของตนเองที่เราไม่ได้มีโอกาสเห็น นั่นก็คงไม่แตกต่างจากภาพของตนเองที่มีต่อลูกในปัจจุบัน

แตกต่างกันเพียงสิ่งแวดล้อมและตัวเลขวันเวลา ภาพถ่ายจึงเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้ลืมเลือน ภาพใหม่ภาพเก่าเล่าถึงความเปลี่ยนแปลง

ภรรยาบอกให้ถ่ายรูปลูกไว้มากๆ เพราะช่วงเวลานี้เด็กน้อยเริ่มโตเร็ว เวลาผ่านไปเร็วอย่างเชื่องช้าจนแทบไม่รู้ตัวว่าลูกเราตัวยาวกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนห้าหรือสี่เซนติเมตร ยิ่งย้อนกลับไปค้นรูปภาพตอนก่อนคลอด ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ชีวิตเราที่เกิด และ ได้เติบโตมานั้น มันช่างมีความหมาย มีหมายเหตุให้ต้องดำรงอยู่

เพื่อคนที่รักเรา และ เพื่อคนที่เรารัก

มองหน้าลูกตอนหลับ พอได้พักก็ทำให้นึกถึงยามเช้าของพรุ่งนี้ – ใช่แล้ว – พรุ่งนี้ ลูกก็จะโตขึ้นไปอีกหนึ่งวัน

พ่อกับแม่ก็เช่นกัน – ครอบครัวเราจะเติบโตไปพร้อมกัน

dsc_0037

ใส่ความเห็น